(SF) The First Snow (BJIN) - (SF) The First Snow (BJIN) นิยาย (SF) The First Snow (BJIN) : Dek-D.com - Writer

    (SF) The First Snow (BJIN)

    วันหิมะตกครั้งแรกของปีสำหรับคิมฮันบิน.. คืออีกวันที่เขาไม่มีใคร .. จนกระทั่งค้นพบหัวใจที่หายไปจนเจอ NO DRAMA :D

    ผู้เข้าชมรวม

    1,190

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.19K

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    24
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 พ.ย. 56 / 22:26 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    สวัสดีค่าาาาาา !!!!




    เปิดประเดิมกันด้วยฟิค BJIN เรื่องแรกหลังจากแพลนที่จะเขียนมานาน
    นี่ได้บรรยากาศจากวันหิมะตกครั้งแรกในรอบปีที่เกาหลีวันนี้
    แล้วโมเมนต์มันก็ดูกึ่มๆ (ฮ๊ะ ??) พอดี

    วุ้วววววว !!!!!

    เรื่องนี้ไม่ดราม่าค่ะ.. เพราะไรท์เตอร์ฮา แต่ดราม่าและสาระไม่เป็น
    #แซะตัวเองทำไม

    ฮี่ๆๆๆ ฟิคเรื่องนี้เสร็จด้วยความไวแสงมาก  ไรท์ว่า 9 A4 นี่สั้นแล้วจริงๆ นะ !! 

    ความรักของคิมฮันบินที่มักจะมีเรื่องหรืออันเป็นไปในวันหิมะตก
    กี่ปีผ่านไปก็ไม่เคยจะสมหวัง ...

    จะมีสักครั้งมั้ยนะ .. ที่วันหิมะหนาวเหน็บของฮันบินจะมีมืออุ่นๆ ของใครมากุมไว้แทน ??


    คอมเม้นต์ติชมกันได้นะคะ  ไม่ได้แต่งมานานมากกกกกกก !!!!
    สามารถฟาด tag กันได้ด้วย #bjinsnow ค่าาาา


    ขอบคุณค่ะ ... ถ้ายังพอมีคนอย่างอยู่บ้าง
    จะคลอดฟิคยาวละ "Love On The Ice (BJIN) ต่อ.. เย้ !!!!!

    รักรีดเดอร์ค่ะ <3
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      (SF) The First Snow   (BJIN)

       

       

      คนหลายคนมองว่าฤดูหนาวเป็นฤดูที่เลวร้ายที่สุดในรอบปี

      ประวัติศาสตร์ วรรณคดี และเรื่องราวน่าเศร้าทั้งหลายมักจะเกิดขึ้นในฤดูหนาว

      หิมะสิขาวที่ตกลงมาแม้นจะดูบริสุทธิ์ แต่เมื่อมันละลาย ... น้ำที่เจิ่งนองบนพื้นอาจทำให้เกิดอันตรายได้

      ความหนาวเหน็บบาดลึกไปถึงกระดูกโดยไม่มีเครื่องนุ่งห่มใดๆ จะช่วยได้

      ยิ่งสำหรับคนที่ “ไร้คู่” แล้วนั้น ... ความหนาวมันจะจับเข้าไปถึง “ขั้วหัวใจ” เลยล่ะ ...

       

      ........

      .................................



       

      “ฮยองมานั่งดราม่าอะไรตรงนี้วะ ?” เสียงอันทรงสเน่ห์บวกกับคำทักทายอันแสนสุภาพจากน้องเล็กจุนฮเวดังขึ้น  พี่ใหญ่ตัวเล็กอย่างคิมจินฮวานถึงกับสะดุ้งก่อนจะว่าง Note 4 ลงบนพื้นห้องซ้อม
       

      “ไอ้บ้า .. มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ตกใจหมด” จินฮวานตอบก่อนจะถอนหายใจฟึดฟัดออกมาเล็กน้อย จุนฮเวขมวดคิ้วมากกว่าเดิม

      “เอ๊า ! ผมก็มาพร้อมเสียงปกติ จะให้ผมส่งเสียงมาก่อนทุกครั้งเหมือนหลานเหยินผู้กตัญญูไง๊ ?” จุนฮเวยังคงฮาร์ดคอร์ตอบคำถามด้วยสีหน้าเอาเรื่อง  (คือจริงๆ ผมไม่ได้ฮาร์ดคอร์  และนี่เป็นหน้าปกติของผมฮะ : จุนเน่ได้กล่าวไว้)

      “ใครวะ ?” ยุนฮยองที่เพิ่งเดินมาสมทบในห้องซ้อมพร้อมดงฮยอกเอ่ยถามอย่างงงๆ  อะไรของมัน .. หลานเหยินผู้กตัญญู ?

      “จิวานี่ฮยองงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!!!!” เสียงแหกปากเรียกระดับ 80 เดซิเบลดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะเกินเข้ามาด้วยเสื้อฮู้ดกับกางเกงชมพูลายดอก  ที่ตัวเขาแอบไปขโมยของคังซึงยุนมาในขณะที่ทีมเอไปญี่ปุ่น

       

      “ก็บ๊อบบี้ฮยองนี่ไง ... ไม่ลืมตาเลย ... โคตรเป็นหลานที่กตัญญู”

      “.............................”

      “............................................”

      “.......................................................”


       

      “กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!  ขอบคุณที่ชมวะครับ -^-“ คิมจีวอนเอ่ยยิ้มพลางตบหลังมักเน่เบาๆ

      “มันด่ามึงนะ - -‘” ยุนฮยองผู้อินดี้แต่มุกล้ำทำหน้าเนือยๆ  คนอะไรวะโดนน้องแซะแล้วยังอารมณ์ดี  คนอื่นเขารับประทานจุดรอบห้องจนจะเป็นหมาดัลเมเชี่ยนละโว้ยย !!




       

       

      เอ้ะ ...............

       





      เดี๋ยวนะ .......

       

       






      นี่มันหายไปไหนคนนึงรึเปล่า ????

       

       

      “แล้วนี่ฮันบินไปไหนอ่ะ ?” จินฮวานมองหาคนสำคัญ... คนสำคัญของวงที่หายไป

      “โน่นนนน !  ยืนชมวิวหิมะตกแล้วโทรหาที่รักมันอ่ะ มันยังจะหวังให้เค้ารับรักมันอยู่อีกเนอะ” คิมจีวอนส่ายหัวอย่างปลงๆ ผิดกับ
      จินฮวานที่รู้สึกเส้นกระตุกและหน้าชาขึ้นมาทันที  มือเรียวคว้าโทรศัพท์เครื่องโปรดก่อนจะอ่านอะไรบางอย่างเงียบๆ

       

      “เฮ้ยใครวะฮยอง !?!  นี่ลีดจะออกเรือนแล้วไม่ปรึกษาน้องนุ่ง งี้มันต้องตายยยย !!!!” กูจุนฮเวยืนกำหมัดชูไปบนฟ้า  ดงฮยอกส่ายหัวให้กับลูกคู่ก่อนจะดึงกางเกงแทบหลุดเพื่อให้เจ้าตัวนั่งลงมา

      “เขาเคยเป็นเด็กฝึกที่นี่แหละ  แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ท่านประธานส่งไปเรียนเมืองนอกเพื่อกลับมาทำงานในค่าย  ตอนแรกก็เหมือนจะกิ๊กๆ กันหรอก  แต่พอไปๆ มาๆ ไอ้คนของเราติสต์แตกบ้าแต่งาน  รู้ตัวอีกทีเขาก็ไปเมืองนอกละ” ผู้สื่อข่าวคิมจีวอนรายงานเหตุการณ์

      “อ่อออออ !!!! จำได้ละ  ช่วงที่ผมเข้ามาใหม่ๆ  มันแอบกินโซจูของฮยองจนเมาเละแก้ผ้าเดินรอบหอ แถมจู... อุ้กกกก !
       

      “มึง ... หุบ ... ปาก” คิมจินฮวานผู้ที่นานๆ ทีจะขึ้นมึงกูกับน้องได้ถอดถุงเท้าปิดปากผู้สื่อข่าวซงยุนฮยอง  ขณะที่สองมักเน่ถึงกับตาโตในเรื่องที่ไม่เคยได้ยิน

      “ฮยองโกรธหรอ !?!  เห้ยดงฮยอกมึงถ่ายรูปเก็บไว้เร็วๆ จินฮวานฮยองโกรธจนหน้าแดงเลยเว้ย !” จุนฮเวสะกิดเพื่อนข้างๆ ที่กำลังง่วนกับการช่วยชีวิตยุนฮยอง

      “แน่ใจว่าหน้าแดงเพราะโกรธ ???” รอยยิ้มกวนๆ พร้อมคำถามจากหลานกตัญญูดังขึ้น  จินฮวานกวาดสายตาไปทางผู้เปิดประเด็นก่อนจะเอ่ยคำพูดที่แรงที่สุดในชีวิตออกมา .....

       



       

       

      “จะฆ่าทิ้งให้หมดเลย.........”

       

      ..........

      ...................

      ....................................................


       

       

      Jinhwan’s Part



       

      สารภาพเลยครับ... ว่าตอนที่จุนฮเวถามว่าผมดราม่าอะไร  คำตอบมันก็อยู่ในโทรศัพท์นี่ล่ะ


       

      ผมกำลังนั่งอ่าน KaKao Story ของฮันบินที่คาดว่าเพิ่งอัพตอนที่เจ้าตัวเดินออกไปนอกห้อง  จริงๆ พวกเรากำลังจะเข้ารับการประเมินประจำเดือนในอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า  แต่ในเมื่อมันเป็นวันที่หิมะตกครั้งแรกของปี.. ท่านประธานเลยโทรสายตรงจากญี่ปุ่นว่า

      ห้ามซ้อมเด็ดขาด... ให้ใช้เวลาในวันนี้เติมความสุขที่หายไป  สร้างกำลังใจในการเดินต่อไป


      ตอนฮันบินเดินมาบอกผมก็งงๆ นะครับ ... ความสุขที่หายไปงั้นหรอ ?   ความสุขของผมล่าสุดคือการที่สมาชิกทั้งหกไปบ้านผมที่เกาะเชจู  นั่งรอบล้อมคุณแม่ผมและฟังเรื่องราวที่แม่ได้กลายเป็นเพื่อนกับแฟนคลับผม   จริงๆ เมนฮันบินน่ะครับ .. แต่เธอบอกแม่ว่า “รักเวลาที่ผมและฮันบินอยู่ด้วยกัน” ..... 

      พวกคุณคิดว่าแม่ผมจะเก็ทมั้ยครับ ??  (เก็ทจ้า
      ! : รีดเดอร์)


       

      นอกเรื่องละครับ ...  ผมสามารถจับได้ทันทีว่าฮันบินกำลังเหงา  เขาเคยพูดว่านอกจากครอบครัวและสมาชิกของเราแล้ว  เขาก็ไม่มีใครที่จะเข้าใจหรือเขาไว้ใจได้  ขนาดเรื่องของอดีต (?) ที่รัก (?) ของเขา .. ยังมีแต่ผมและบ๊อบบี้ที่ได้เห็นสภาพเด็กหนุ่มวัย 17 เมาหัวทิ่ม  ก่อนจะกอดผมร้องไห้และบอกว่าตัวเองเป็นคนปล่อยรักครั้งนั้นหลุดมือไป

       

      ฮันบินยังไม่รู้ด้วยซ้ำครับ ... หลังจากสองปีผ่านไป  ว่าคืนนั้นเขาทำอะไรกับผมไว้บ้าง

       

      เขาไม่รู้ด้วยซ้ำ ... ว่าเขาสร้างความเปลี่ยนแปลงในตัวผมอย่างที่ผมไม่เคยคิดมาก่อน 

       

      เขาไม่รู้เลยว่าผม ...




       

      “เฮ้จินฮวาน ! ออกไปเล่นหิมะกันมั้ย ??” เท้ดดี้ฮยองวิ่งเอามือมาลูบหัวผม  หลังเพลง Just Another Boy ของเราออกมา พี่เขาชื่นชมในตัวพวกเรามากขึ้นกว่าเดิม

      “ไม่ดีกว่าครับฮยอง  ผมออกมาตามหาฮันบินอ่ะครับ  ฮยองเห็นมันมั้ยครับ ? ออกมานานเกินไปเดี๋ยวจะไม่สบายเอา  ดูมันดิฮยอง.. ข้าวก็กินไม่ตรงเวลาแล้วยังจะออกไปตากอากาศหนาวๆ  ฮยองรู่ป่ะครับว่าดึกๆ มันก็ทำแต่งานจน...”

      “หยุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!  แหม่ .... นี่เป็นแม่หรือเป็นเมีย ? วู้ ! ช่วงนี้ฟิคบีจินยิ่งเยอะๆ อยู่”    เท้ดดี้เบรกจินฮวานเมื่อเจ้าตัวชักออกอาการจนนักแต่งเพลงมีอายุแบบเขายังเขินแทน

      “ฮ..ฮยองงงง !!! อ่านไรแบบนี้ด้วยหรอครับ !?!  ไม่เอาอ่ะ..ผมไม่คุยด้วยละ !” ว่าแล้วผมก็สะบัดหน้าเดินหนีเสียงหัวเราะของเท้ดดี้ฮยอง  แก้มทั้งสองข้างของผมมันร้อนจนยิ่งกว่าคนเป็นไข้  สงสัยต้องรีบกลับไปกินยานอนพักผ่อนแล้วล่ะ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมันไม่ดีต่อสุขภาพ (หัวใจ) จริงๆ !!


       

       

      อ้ะ .. นั่นไงฮันบินกำลังนั่ง VDO Call กับฮันบยอลเบบี้ !!!!!!!
       

       

      “ฮันบิ....”  เสียงของผมหายเข้าไปในลำคอก่อนมือของผมจะชะงักอยู่ตรงที่จับ  เมื่อผมได้เห็นว่าใครกำลังอุ้มน้องสาวที่คิมฮันบินหวงนักหวงหนา ....


       

       

      ทำไมกันนะ .. ขอบตาผมมันร้อนๆ ยังไงพิกล ....





       

       

      Hanbin’s Part


       

       

      หลังจากที่ท่านประธานสั่งให้เราตามหา “ความสุขที่หายไป” ผมก็ออกมานั่งดูหิมะอยู่บนชั้นดาดฟ้าของบริษัท  ครั้งสุดท้ายที่ได้ขึ้นมาคือตอนปาร์ตี้บาร์บีคิวเมื่อครั้งที่เด็กฝึกชายของวายจียังมี 11 คน  จนตอนนี้เหลือแค่พวกเราแล้ว...

      “ความสุขที่หายไป” งั้นหรอ ?? 

      ผมเอื้อมมือออกไปรับเกล็ดหิมะที่ตกลงมาบนมือแห้งๆ ของผมก่อนจะจุดยิ้ม  ในวันหิมะตกครั้งแรกเมื่อสี่ปีก่อนผมได้เจอกับใครคนหนึ่ง.. คนที่ทำให้วันหนาวๆ ดูอบอุ่นขึ้นมาทันที  คนที่กลายมาเป็นรักแรกที่ไม่สมหวังของผม  คนที่ผมทำร้ายจิตใจด้วยอาการบ้างานและอยากเดบิวต์จนลืมคิดถึงเขาไป

       

      มารู้ตัวอีกที ...  หิมะที่เคยสวยงามก็กลายเป็นสายน้ำที่ทำให้ผมลื่นล้มลงไปด้วยตัวของผมเอง

       

      หลังจากนั้น... อาการเกลียดหน้าหนาวของผมก็เกิดขึ้น  เวลาผ่านไปเกือบครบปีจนถึงหน้าหนาวอีกครั้ง ผมจำได้ว่าออกมานั่งตรงนี้พร้อมใครอีกคนหนึ่ง

       

      นี่...นายร้องไห้หรอ ?? ตาแดงเลยอ่ะ ! เป็นอะไร ??

      ฉ..ฉัน.. ฮึก ฉันคิดถึงแม่ ฮึก.. ฉันอยากกลับเชจู เด็กผู้ชายร่างเล็กร้องไห้จนจมูกแดง  ผมอมยิ้มบางๆ ก่อนจะวาดแขนไปโอบไหล่เขาไว้  เจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ว่าอะไร

      “ร้องออกมาให้หมดบนนี้ล่ะ .. ตั้งใจซ้อมให้มากๆ  แล้วถ้าเหงาเมื่อไหร่ ... นายยังมีฉันนะ” 

      ไม่รู้อะไรดลใจทำให้ผมพูดคำนั้นออกไป  เจ้าตัวได้ยินคำนั้นก่อนจะกอดซุกผมเหมือนเด็กๆ ... ผมได้แต่โยกตัวไปมาเหมือนเวลาผมกล่อมฮันบยอล  ใครจะไปคิดว่าเด็กผู้ชายขี้งอแงคนนั้น  จะกลายมาเป็น “ฮยองผู้แสนดี” ในสามทหารเสือของผมในเวลาสองเดือนต่อมา

       

      และก็เป็นวันหิมะตกครั้งแรกในปีถดมาเช่นกัน  ที่ผมร้องไห้ซุกพี่เขาเหมือนเด็กๆ เมื่อคนไกลที่ผมเฝ้ารอบอกว่าเธอจะไม่กลับมา คำพูดที่ยังสื่อว่ารักกันแต่อะไรบางอย่างทำให้เป็นไปไม่ได้


      ถามตัวเองก่อนนะคิมฮันบิน  ว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา.. นายยังรอฉันจริงๆ รึเปล่า เธอยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะบอกผม  ทั้งๆ ที่เธอรู้ดีว่าตลอดมาผมก็อยู่กันแค่สามหนุ่ม  จะเป็นไปได้ยังไงถ้าผมจะมีใครอื่นนอกจากเธอ ...   คืนนั้นผมเมามายไม่ได้สติและหันเข้าหาความอบอุ่นจากคนข้างกายให้มากที่สุด  มากเสียจน...
       

       


      “โอ้ป้า !!! บยอลมาแล้วววววววววว ^__________^” เสียงเจ้าน้องสาวสุดน่ารักรับโทรศัพท์ของคนที่ผมรอ..

      “อ้าววว ! บยอลมาเล่นที่บ้านพี่เขาหรอคะ ?  ซนรึเปล่า ?” ใบหน้าผมแต้มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อเจ้าตัวแสบทำปากจู๋แล้วส่ายหน้า  รอยยิ้มของคนข้างๆ ทำให้ผมยิ้มตามไปด้วย

      “นึกยังไงถึงโทรมา ?” เสียงแมนๆ ที่ขัดกับใบหน้าเอ่ยถามขึ้นก่อนจะตั้งกล้อง iPhone ให้พอดีกับตัวเองและบยอล

      “ก็.. คิดถึง”

      “.........”

      “จำไม่ได้หรอวันหิมะตกครั้งแรกของเราไง” ผมเอ่ยเสียงแผ่วอย่างกล้าๆ กลัว  กลัวอะไรที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำ...

       

      “แล้วนายล่ะฮันบิน... จำวันแรกที่หิมะตกของปีที่แล้วได้รึเปล่า ?” เสียงที่ฟังดูอ่อนนุ่มลงหลังจากที่เงียบสักครู่  ผมเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะพบว่าดวงตาอบอุ่นคู่นั้นไม่ได้สั่นไหว  แม้จะมีหน่วยน้ำตาเล็กๆ เอ่อคลออยู่ก็ตาม

      “ผ่านมาจะสองปีแล้วจากวันนั้น  นายหาคำตอบให้ตัวเองได้รึยัง ?” รอยยิ้มอ่อนที่ไม่ได้เห็นมานานฉายบนใบหน้านั้น

       

      “ฉัน ... รอเธอกลับมา” ผมตอบก่อนมองกลับไปในดวงตาใสๆ คู่นั้น  ร่างบางถอนหายใจน้อยๆ

      “ฉันก็กลับมาแล้วนี่ไง ...”

      “.......”

       

      “แต่ฉัน ... ไม่ใช่คนที่อยู่ตรงนั้น  หัวใจของนายไม่ได้เต้นเพื่อฉันอีกแล้ว .. ใช่มั้ยฮันบิน ?”

      “.......”

       

      “ฮึก.ตาบ้อง !  จะต้องให้ฉันดราม่าสอนนายทำไมเนี่ย  อย่าหลอกตัวเองหน่อยเลย น..นายน่ะ ... รักอีกคนนึงมาตั้งนานแล้วล่ะ ทำไมไม่รู้ตัวสักที” คนที่ผมมองผ่านกล้องกลืนอ้อนสะอื้นเล็กๆ ก่อนที่จะยิ้มตามเดิม

      “ฮึกก.. ทำไมฮันบินนี่โอ้ป้าไม่รู้อะไรบ้างเลยยยยย ฮืออ.. บยอลล .. บยอลจะฟ้องจูเน่โอป้า ฟ้องคิมบับโอป้าให้เล่นงานพี่ฮันบินเลยย แงงงงง... บยอลจะหาพี่จินนี่ T___________T  น้องสาวตัวดีของผมร้องไห้เบะปากอย่างน่ารัก  แต่แหม่... ถึงขั้นฟ้องไอ้จุนฮเวมารุมพี่ชายตัวเองเลยนะ !!
       

      “ฮันบิ...!  เหมือนผมจะได้ยินเสียงเรียกตัวเองจากที่ไหนใกล้ๆ มากแต่หันไปก็หาไม่เจอ

       

      “พี่จินนี่ฮวานนี่เบบี้ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ฮันบยอลผู้ตาดีมองเห็นเงาของคนที่หลบอยู่ตรงประตูกระจก  ผมสะดุ้งไม่ต่างกับพี่จินฮวานที่ทำหน้าตกใจเดินออกมาเมื่อฮันบยอลเรียกหา

      “บยอลคนเก่งร้องไห้ทำไมคะ  ไหนบอกพี่จินสิ... หื้มมม ?” พี่จินฮวานใช้นิ้วลูบไปบนกล้องในเชิงเช็ดน้ำตาให้ฮันบยอล  เจ้าตัวเล็กเอ่ยปากเจื้อยแจ้ว

      “แงงง...โอป้าไม่ฉลาดเลยยย หม่ะม๊า..หม่ะม๊ากับออนนี่บอกว่าโอป้ากำลังอินเลิฟแต่ไม่รู้ตัว  บยอลยังรู้เลยนะ ! ฮันบยอลหันไปหาคนที่อุ้มตนอยู่เป็นการขอเสียงสนับสนุน  ซึ่งได้รับการตอบรับด้วยการพยักหน้า
       

      “อ่า..หรอคะ  บยอลไม่ร้องเนอะ..เดี๋ยวออนนี่เหนื่อยนะคะ   เธอกลับมานานยัง ? สบายดีมั้ย ?” จินฮวานทักทายอีกคนในฐานะเพื่อนคนหนึ่งที่รู้จักกัน

      “สามวันแล้วล่ะ  แต่เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ต้องกลับไปแล้ว  พอดีท่านประธานเรียกมาจัดการคนไม่ฉลาด ฮิๆ”

      “จัดการอะไรฉัน ???”  ผมรีบหันไปถามเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มโดนเผา

      “อ้าว.. ยอมรับแล้วว่าโง่ ?” ครับ... นี่คือพี่จินฮวานครับ !!  ผมถึงกับคว้าไหล่เขามาประจันหน้ากัน
       

      “ฮยองตาแดง !  ร้องไห้ทำไม ? ไอ้เวรจุนฮเวแกล้งใช่มั้ย เดี๋ยวต้อง..!!

      “ฮันบินโอป้าพูดไม่เพราะ !!!!!” ฮันบยอลที่หยุดร้องไปแล้วหันมาชี้หน้าผม (ผ่านกล้อง) พี่จินฮวานส่งสายตาดุก่อนจะตบไหล่ผมโทษฐานทำตัวไม่น่ารักต่อหน้าน้อง

      “เอ่อ.. ฉันไม่ขัดละ  คุยกันไปแล้วกันนะ” พี่จินฮวานลุกออกไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกของผม  แต่ผมยังแอบเห็นว่าเจ้าตัวนั่งก้มหน้าอยู่มุมบันได
       

      “คิมฮันบิน...  ยอมรับตัวเองได้แล้วนะ  รักใครชอบใครก็บอกเขาซะ  อย่าปล่อยให้เวลาดีๆ มันผ่านไป  อย่าให้คำว่าพี่น้องหรือเพื่อนร่วมงานมากั้นความรู้สึกให้ที่มีให้กัน  อย่า... ให้มันเป็นแบบเรื่องของเราอีกนะ”

      “.........” ผมรับฟังคำพูดเหล่านั้นก่อนจะคิดตาม  ตลอดสามปีที่ผ่านมากับหัวใจที่ผมคิดว่าได้หายไป  หัวใจดวงนั้นกลับมาบอกว่าผมควรจะให้มันกับเจ้าของที่แท้จริงได้แล้ว       ในที่สุด.. ผมก็พูดคำๆ นึงที่ไม่เคยมีโอกาสได้พูด 


      “ฉันรักเธอนะ... รักแรกของฉัน” ผมยิ้มอย่างบริสุทธิ์ใจให้กับคนที่ยิ้มตอบมาด้วยคำๆ เดียวกัน  คำที่ผมเฝ้ารอจากเธอมานับปี


      “ทีนี้ก็ได้เวลาไปหา ... รักสุดท้าย ... ได้แล้วนะ !

       

      ....................

      .............................



       

      มือนุ่มๆ ที่ลูบอยู่บนหัวผมกำลังทำให้ผมไม่อยากลุกไปไหน  หากแต่แรงเขย่าแรงๆ กับเสียงเรียกชื่อดังลั่นทำให้ผมต้องลืมตามอง  พี่จินฮวานเดินมาพร้อมผ้าห่ม เสื้อหนาว และผ้าพันคอยอกชุดก่อนจะจัดบ่นผมซะยกใหญ่

      “ทำไมมานั่งหลับตากหิมะแบบนี้ ?? บ้าแล้วรึเปล่า ?? เพราะเขาไม่รับรักหรือไง ?” พี่จินฮวานพูดออกมา  หน้าขาวๆ นั่นแดงจนผมอยากเอามือไปอังให้หายหนาว

      “อืม... ผมบอกรักเขาไปแล้วล่ะ  แต่โดนปฏิเสธแบบไม่มีสิทธิ์เลยแฮะ” ผมแค่นยิ้มออกมาเล็กน้อย  ทีนี้ล่ะ... พี่จินฮวานปล่อยระเบิดลงมาตู้มใหญ่..

       

      “ฮึก... คิมฮันบิน ! นายมันเสียสติไปแล้ว ! กับแค่ผู้หญิงไม่รักทำไมต้องมานั่งทำร้ายตัวเองอยู่ตรงนี้  ฮึก..นาย.. นายมันไม่ฉลาดอย่างที่บยอลว่าจริงๆ นั่นแหละ  ท่านประธานสั่งให้หาความสุข ฮึก..แต่นายกลับ..อุ้บบ !”

      หิมะที่ว่านุ่มเยี่ยงปุยนุ่ม... เทียบไม่ได้เลยกับริมฝีปากสั่นระริกที่ผมกำลังสัมผัสในตอนนี้  คนตรงหน้าของผมช็อคตัวแข็งไปกับการกระทำที่ผมใช้เพื่อหยุดคำพูดตัดพ้อของเขาไว้  แต่เขาจะรู้ไหมนะ... ว่าผมเองก็ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น


      “ฮึก..ฮ..นายเห็นฉันเป็นของเล่นหรือไง ?? ต..ตั้งแต่คืนนั้นที่นายเมา นายก็..จ.จูบฉันแบบนี้  ไอ้บ้าฮันบิน !! เล่นกับความรู้สึกฉันมันสนุกมากใช่มั้ย !?” กำปั้นเล็กๆ ทุบลงมาที่อกของผมด้วยแรงที่ไม่เบานัก  ผมจัดการรวบคนตัวเล็กมาไว้ในอ้อมกอดก่อนที่เขาจะยอมนิ่ง  ด้วยความที่หมดแรงจะดิ้นต่อแล้ว


      “ตัวเล็กครับ..  ผมเคยบอกรึยังว่าผมล้อเล่น ?”

      “.............................................”

       

      “ผมบอกตอนไหน .. ว่าตอนนั้นที่ผมจูบตัวเล็ก  ผมไม่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัว ?”

      “.........................” ผมได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นกับคำพูดที่ผมกำลังบอกเขา และสรรพนามที่เปลี่ยนไป

       

      “ใช่... ผู้หญิงคนนั้นคือรักแรกของผม” ผมรีบกอดเจ้าตัวไว้เมื่อเริ่มออกแรงขัดขืนอีกครั้ง

       

      “แต่คนที่เป็นรักเดียว และจะเป็นรักสุดท้ายของผม...”  

      “.........................” ผมเชยคางใบหน้าเรียวเล็กขึ้นมาให้สบตากัน  ไม่ว่าตอนนี้หน้าพี่จินฮวานจะแดงเขินขนาดไหน  เขายังมองตอบผมอย่างรอคอย

      “รักสุดท้ายของผมคือคนที่จะตื่นนอนตอนเช้าด้วยกันทุกวัน  กางร่มด้วยกันในวันฝนตก  กอดผมในเวลาหนาว.. และจะเป็นคนที่ผมจุมพิตด้วยในวันหิมะตกครั้งแรก”   ผมเอ่ยก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนกลีบเนื้อสีแดงหวานนั่นอย่างแผ่วเบา
       

      “คนๆ นั้นคือพี่จินฮวาน ... คนๆ นั้นคือคุณ ... ผมรักคุณนะครับ ตัวเล็กขี้แง ขี้น้อยใจของผม <3” 

      หลังคำสารภาพรักที่ผมเก็บไว้มานานนับปี  คนตัวเล็กค่อยคลี่ยิ้มออกทั้งน้ำตาก่อนจะโถมตัวเข้ากอดผมพร้อมสะอื้น  เราสองคนยืนกอดมอบความอบอุ่นท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย  จูบหวานนุ่มที่เป็นไปด้วยความรักที่เปรียบดั่งหิมะสีขาว ... ต่อไปนี้ผมจะไม่กลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว

       

      ต่อจากนี้ไป.. ข้างกายของผมจะมีคนตัวเล็กชื่อคิมจินฮวาน

      คนตัวเล็กที่สุดคนนี้ .. คือความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผม



       

      รักนะครับตัวเล็ก <3






       

       

      END




       

       

      ############## SPECIAL ##########################
       

       

      “โถ่แม่ม.. กว่าจะรักกันได้นี่ลำบากคนอื่นเนอะ” ยุนฮยองและเดอะแก๊งค์ยืนส่องอยู่ตรงกระจกถึงกับบ่นออกมา

      “วันไหนอดีตพี่สะใภ้มาบริษัท กูจุนฮเวคนนี้จะขอชาบูสักสิบจอก ! ในที่สุดรูมเมททั้งสองก็รักกันสักทีวะ.. มัวแต่เล่นหนังเกาหลีแอบมองกันไปมา กลิ้งไปมาจนเตียงยวบยาบเนี่ย !

       

      “เออ .... ว่าแต่ฮันบยอลยังว่ามึงหน้าโหดเป็นนักเลงเลยว่ะไอ้มักเน่จุนฮเว !” คิมจีวอนกล่าวก่อนจะขำกันยกทีม  เป็นเวลาเดียวกันกับที่คู่รักคู่ใหม่เดินจับมือกันกลับเข้ามา

       

      “ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว !!!!!!” เสียงต้อนรับบวกกับหนึ่งเสียงของเท้ดดี้ฮยองที่วิ่งมาเสริมทัพดังขึ้น  ฮันบินจับมือคนตัวเล็กไว้แน่นไม่ยอมปล่อย  จินฮวานก้มหน้างุดก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงและสายตาพิฆาต



       

       

       

      “ใครแซวนะแม่ม.... จะ ฆ่า ทิ้ง ให้ หมด เลย “

       

       






       

      .................. ครับ !! คิมฮันบินยอมตายครับที่รัก <3


      จบเถอะค่าาาาาา !!!!!! #bjinsnow

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×